วันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560

ทำไมเครื่องสำอางในไทยถึงห้ามใส่ไฮโดรควิโนน

เป็นที่ทราบกันดีว่า Hydroquinone (ไฮโดรควิโนน) เป็นสารอันตรายที่ห้ามใส่ในเครื่องสำอางในประเทศไทย แต่ถ้ามีเพื่อนชาวชาติ เพื่อนชาวต่างชาติบางคนอาจแปลกใจว่า "ทำไมประเทศยูถึงห้ามล่ะ ประเทศไอยังใช้ได้เลย ใช้รักษาฝ้าดีมากเลยนะ"

เออ นั่นสิ ทำไมบางประเทศห้าม ทำไมบางประเทศไม่ห้าม ยิ่งประเทศไทยแดดแรงๆแบบนี้ คนเป็นฝ้ากันเพียบ ทำไมถึงไปห้ามซะละ

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า ไฮโดรควิโนน ก็เหมือนกับสารที่ทำให้ผิวขาวทั่วไป คือไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนสภายในเมลาโนไซท์ได้ ผลคือ ทำให้เกิดการยับยั้งการสังเคราะห์เมลานินซึ่งเป็นตัวการทำให้ผิวดำนั่นเอง (=ผิวขาวขึ้น) แถมยังเป็นตัวที่มีประสิทธิภาพมาก + ราคาไม่แพงซะด้วย

ในหลายๆประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อนุญาตให้มีการใส่ไฮโดรควิโนนที่ความเข้มข้นไม่เกิน 2% ได้ (ถ้าเกินนี้ต้องมีใบสั่งแพทย์)

แต่!!! ปัญหาของไฮโดรควิโนนคือ มันทำให้ขาวก็จริง แต่มันก็ทำให้ผิวลอก ผิวระคายเคือง เกิดด่างขาวได้ด้วย นอกจากนี้ยังทำเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง และทำให้ตาดำพิการถาวรได้ด้วย (เพราะถ้ามันไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีในตา ก็เท่ากับตาเราเจอแสงเข้ามาทำร้ายดวงตาเต็มๆโดยไม่มีอะไรป้องกัน)

ที่สำคัญที่สุดคือ การสัมผัสแสงแดด เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดกระบวนการย้อนกลับ (Reverse effect) ของไฮโดรควิโนน พูดง่ายๆก็คือ แทนที่จะไปยับยั้งการสร้างเมลานิน กลายเป็นไปเพิ่มการสร้างเมลานินแทน ทำให้เกิดผิวดำๆ ด่างๆ และกระบวนการนี้ไม่มีทางรักษา เกิดแล้วเกิดเลย แก้ไม่ได้ ย้อนกลับไม่ได้อีก ซึ่งแน่นอนว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่แดดแรงเป็นอันดับต้นๆของโลก ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิด Reverse effect นอกจากนี้สมัยที่ยังอนุญาตให้ได้ในเครื่องสำอาง ก็ใส่กันไม่ยั้งมือเลย บางครั้งตรวจพบสูงถึง 5-8% ซึ่งถือว่าสูงมาก ทั้งหมดนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ อย. ไทย ตัดสินใจแบนไม่ให้ใช้ไฮโดรควิโนนในเครื่องสำอางอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่มันใช้รักษาฝ้าได้เห็นผลดีมาก + ราคาไม่แพง อย. จึงอนุญาตให้ได้ในกรณีเฉพาะ และต้องสั่งใช้โดยแพทย์ผิวหนังซึ่งมีความเชี่ยวชาญเท่านั้น โดยแพทย์จะต้องติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด และห้ามใช้ที่ความเข้มข้นเกิน 2% ครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น